63/2 อาคาร บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ชั้น 1,3,4,5 และ 6 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง
เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
TIPlife CALL CENTER
จรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจ
ของบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
พ.ศ. 2567
___________________
ตามที่ได้มีประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2562 หมวด 2 โครงสร้าง องค์ประกอบ หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ และกรรมการ ในข้อ 12 กำหนดให้คณะกรรมการบริษัทมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการกำหนดให้บริษัทมีบทบัญญัติเกี่ยวกับจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจ จริยธรรมของกรรมการ ผู้บริหารและพนักงาน เพื่อยึดถือเป็นแนวปฏิบัติภายในบริษัท นั้น
บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตระหนักและให้ความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการที่ดีมุ่งมั่นให้คณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัทปฏิบัติหน้าที่และบริหารงานของบริษัทด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบแนวทางในการดำเนินธุรกิจและเพื่อให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ
คณะกรรมการบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ในการประชุมครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ได้มีมติอนุมัติให้ดำเนินการตามจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป
ข้อ 1 ให้ยกเลิกระเบียบ ที่ 012/2558 เรื่อง จรรยาบรรณธุรกิจ ฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม 2558 และให้ใช้จรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจฉบับนี้แทน
ข้อ 2 คำนิยาม
“จรรยาบรรณ” หมายความว่า ความประพฤติปฏิบัติอันเหมาะสมกับวิชาชีพ แสดงถึงจริยธรรมในการปฏิบัติงานสำหรับให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานพึงปฏิบัติ เพื่อรักษาชื่อเสียงของบริษัท อันจะส่งผลให้ ผู้ประพฤติเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาและยกย่องของบุคคลโดยทั่วไป
“จริยธรรม” หมายความว่า ความประพฤติหรือกิริยาที่ควรประพฤติที่สอดคล้องกับความถูกต้องดีงามสำหรับกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัท
“บริษัท” หมายความว่า บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
“ผู้ถือหุ้น” หมายความว่า ผู้ถือหุ้นในบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
“คณะกรรมการบริษัท” หมายความว่า คณะกรรมการของบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
“ประธานกรรมการ” หมายความว่า ประธานกรรมการของบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
“กรรมการ” หมายความว่า กรรมการ และกรรมการชุดย่อยของบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
“ผู้บริหาร” หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารของบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
“พนักงาน” หมายความว่า พนักงานบริษัท ทิพยประกันชีวิต จํากัด (มหาชน)
“ผู้มีส่วนได้เสีย” หมายความว่า บุคคล หน่วยงานหรือองค์กรที่สามารถสร้างผลกระทบ และ/หรือ ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า คู่ค้าธุรกิจ พันธมิตรทางธุรกิจ
“ลูกค้า” หมายความว่า ผู้ที่พนักงานของบริษัท ตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต เชิญชวน ชักชวน หรือชี้ช่อง ให้ทำประกันภัยกับบริษัท และให้รวมถึงผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หรือผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย
“คู่ค้า” หมายความว่า บุคคล กลุ่มบุคคล นิติบุคคลที่ทำธุรกิจร่วมกับบริษัท
“คู่แข่ง” หมายความว่า บุคคล กลุ่มบุคคล นิติบุคคลที่ทำธุรกิจเช่นเดียวกับบริษัท
“เจ้าหนี้” หมายความว่า บุคคล กลุ่มบุคคล นิติบุคคลที่มีสิทธิเรียกร้องให้บริษัทชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
“ลูกหนี้” หมายความว่า บุคคล กลุ่มบุคคล นิติบุคคลที่มีหน้าที่ต้องชำระหนี้ให้แก่บริษัทตามกฎหมาย
ข้อ 3 แนวทางจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจของบริษัท
(1) กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน เป็นผู้มีหน้าที่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจของบริษัท และส่งเสริม หรือสนับสนุนให้มีการปฏิบัติตามจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจ
(2) กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนต้องศึกษาทำความเข้าใจในเนื้อหาที่เกี่ยวกับหน้าที่และความรับผิดชอบของตน
(3) กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนต้องไม่ละเลยหรือเพิกเฉยเมื่อพบเห็นการไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจของบริษัท และให้ความร่วมมือในการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเมื่อมีการกล่าวหาว่าไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจของบริษัท
ข้อ 4 บทบัญญัติจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจของบริษัท
(1) ดำเนินธุรกิจให้ถูกต้องตามข้อกำหนดกฎหมายและกฎเกณฑ์
(1.1) บริษัทมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้ถูกต้องตามข้อกำหนดของกฎหมาย และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
(1.2) บริษัทพึงส่งเสริมให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานยึดถือ และปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
(1.3) บริษัทพึงดำเนินธุรกิจโดยเคารพและไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือลิขสิทธิ์ผู้อื่น
(2) ดำเนินธุรกิจโดยตระหนักต่อสังคม สิ่งแวดล้อม
(2.1) บริษัทพึงดำเนินธุรกิจที่ไม่ขัดต่อขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคม
(2.2) บริษัทพึงรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน รวมถึงสนันสนุนให้ความช่วยเหลือกิจกรรมที่มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคม และสิ่งแวดล้อม
(2.3) บริษัทพึงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยบริหารจัดการและใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
(2.4) บริษัทพึงรักษาและปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัย ดูแลสถานประกอบการ กระบวนการทำงาน และอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานให้มีความปลอดภัย
(3) ปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างเป็นธรรม
(3.1) บริษัทพึงดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงจริยธรรมและความซื่อสัตย์ สนับสนุนให้มีการแข่งขันทางการค้าอย่างเป็นธรรมและไม่ใช้วิธีการที่ผิดกฎหมาย ละเว้นการลด หรือการจำกัดการแข่งขันทางการค้า หรือการทำให้คู่แข่งเสียโอกาสอย่างไม่เป็นธรรม
(3.2) บริษัทพึงรักษาผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกรายด้วยความเป็นธรรม
(3.3) บริษัทพึงให้ความมั่นใจว่าสิทธิของผู้มีส่วนได้เสีย ได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมาย
(3.4) ปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างเป็นธรรม บริษัทคำนึงถึงการสร้างผลประโยชน์และความพึงพอใจให้กับลูกค้าเป็นสำคัญ นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเหมาะสม บริษัทส่งเสริมการสื่อสารกับลูกค้าอย่างโปร่งใส ชัดเจน เป็นธรรมทุกรูปแบบ
(3.5) การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทตระหนักถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวและความรับผิดชอบของบริษัท เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะจัดการให้มีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา พนักงานและผู้เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
(3.6) บริษัทพึงปฏิบัติและให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคและเคารพสิทธิมนุษยชน
(3.7) บริษัทพึงเคารพและตระหนักในความแตกต่าง ความหลากหลายด้านเชื้อชาติ ศาสนา เพศ อายุ การศึกษา และจะไม่สนับสนุนการเลือกปฏิบัติหรือการคุกคามทางเพศ
(4) ความขัดแย้งทางผลประโยชน์
กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และผู้เกี่ยวข้องกับบริษัท ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจส่งผลกระทบในการตัดสินใจใด ๆ ทั้งนี้ ในการปฏิบัติหน้าที่ต้องยึดถือผลประโยชน์ของบริษัทเป็นสำคัญ ภายใต้ความถูกต้องของกฎหมายและจริยธรรม
(5) การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
บริษัทมุ่งมั่นปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน การให้ หรือรับสินบนต่อเจ้าหน้าที่รัฐหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาคเอกชน
(6) การป้องกันการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของกฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงิน และการป้องกันการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย โดยมุ่งมั่นที่จะป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกระบวนการฟอกเงิน หรือสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และให้ความสำคัญต่อการสอดส่องดูแลแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่หากมีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย รวมถึงดูแลให้มีการบันทึกรายการและข้อเท็จจริงทางการเงินหรือทรัพย์สินต่าง ๆ ให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงิน และการป้องกันการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
(7) การปฏิบัติต่อข้อมูลและทรัพย์สิน
(7.1) การบันทึก การรายงาน และการเก็บรักษาข้อมูล
(ก) ความน่าเชื่อถือของรายงานทางบัญชีการเงิน บริษัทกำหนดการควบคุมภายในที่เหมาะสมเพื่อปกป้องความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของข้อมูลและรายงานทางบัญชีและการเงินของบริษัท และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกและการรายงานทางบัญชีและการเงิน
(ข) บริษัทมีการกำหนดชั้นความลับของข้อมูล และกำหนดให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทต้องรักษาความลับในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบ โดยต้องไม่เปิดเผยความลับแม้จะสิ้นสุดการทำงานไปแล้ว
(ค) บริษัทต้องปกปิดข้อมูลลูกค้า และข้อมูลทางการค้าไว้เป็นความลับ ไม่เปิดเผยต่อผู้เกี่ยวข้อง เว้นแต่เป็นข้อบังคับโดยกฎหมายให้เปิดเผย หรือคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้มีการเปิดเผย
(7.2) การเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศ
(ก) บริษัทพึงเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศอย่างเพียงพอ ทันเวลา ถูกต้อง และโปร่งใสโดยสม่ำเสมอตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
(ข) บริษัทพึงระมัดระวังไม่ให้ผู้มีส่วนได้เสียเกิดความสับสน และสำคัญผิดในข้อเท็จจริงของสารสนเทศ
(7.3) บริษัทใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและทรัพย์สินอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงปลอดภัย ดูแลรักษา และป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงโดยมิชอบ
(8) การปฏิบัติต่อพนักงาน
(8.1) บริษัทพึงให้การดูแลแก่พนักงาน และจัดให้มีสวัสดิการพนักงาน
(8.2) บริษัทพึงมีความเป็นธรรมต่อพนักงานทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติ
(8.3) บริษัทพึงสนับสนุนหรือส่งเสริมกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน และระหว่างพนักงานกับบริษัท
(8.4) บริษัทพึงส่งเสริมพัฒนาความรู้ และความก้าวหน้าให้พนักงาน โดยจัดให้มีระบบบริหารงานบุคคลที่เปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับเติบโตในสายอาชีพอย่างเท่าเทียมกัน
(8.5) บริษัทพึงให้โอกาสพนักงานของบริษัททุกคนแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ โดยกำหนดผลตอบแทนที่เหมาะสม และสร้างแรงกระตุ้นในการทำงาน ทั้งในรูปของเงินเดือน เงินรางวัล สวัสดิการ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เหมาะสมตามระเบียบของบริษัทด้วยความเป็นธรรม
(8.6) บริษัทพึงปฏิบัติและให้ความเคารพสิทธิมนุษยชน ความแตกต่าง ความหลากหลายด้านเชื้อชาติ ศาสนา เพศ อายุ การศึกษา
(8.7) บริษัทพึงดูแลรักษาสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีความปลอดภัยถูกสุขอนามัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของพนักงาน
(9) การสร้างค่านิยมที่คำนึงถึงผลประโยชน์ขององค์กรมากกว่าบุคคล
บริษัทพึงสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานทุกคนคำนึงถึงผลประโยชน์ขององค์กรมากกว่าผลประโยชน์ของตน
(10) การปฏิบัติต่อเจ้าหนี้ ลูกหนี้
(10.1) บริษัทพึงมีการกำกับดูแลเพื่อให้เป็นที่มั่นใจได้ว่า บริษัทปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อกำหนดในสัญญาที่มีต่อเจ้าหนี้ ลูกหนี้อย่างเคร่งครัด โปร่งใสและเท่าเทียมกันทั้งในแง่การชำระเงิน การรับเงิน และเงื่อนไขที่ได้ทำข้อตกลงไว้
(10.2) บริษัทพึงไม่ปกปิดสถานะการเงินที่แท้จริงของบริษัท และเปิดเผยข้อมูลแก่เจ้าหนี้ ลูกหนี้ ตามข้อกำหนดในสัญญาอย่างถูกต้อง ครบถ้วนตามกำหนดเวลา
(10.3) ในกรณีที่สงสัยว่าจะมีเหตุการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อเจ้าหนี้ ลูกหนี้ ควรแจ้งให้เจ้าหนี้ ลูกหนี้ทราบและร่วมกันหาทางแก้ไข
(11) การปฏิบัติต่อคู่แข่ง
(11.1) บริษัทพึงปฏิบัติภายใต้กรอบกติกาการแข่งขันที่ดี ไม่แสวงหาข้อมูลที่เป็นความลับของคู่แข่ง ทางการค้าด้วยวิธีการที่ไม่สุจริตหรือไม่เหมาะสม และไม่ทำลายชื่อเสียงของคู่แข่งทางการค้าด้วยการกล่าวหาในทางร้าย
(11.2) บริษัทพึงส่งเสริมกิจกรรมใด ๆ อันนำมาซึ่งความเข้าใจอันดีระหว่างกัน และช่วยเหลือเกื้อกูลกันในโอกาสที่เหมาะสม
(11.3) บริษัทพึงมีทัศนคติต่อคู่แข่งในฐานะเพื่อนร่วมธุรกิจที่จะช่วยส่งเสริมให้บริษัทเกิดการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
ข้อ 5 จริยธรรมของกรรมการ
กรรมการพึงมีแนวทางในการปฏิบัติตน เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจของบริษัท กรรมการพึงตระหนักเสมอว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตนมิใช่พันธะและความรับผิดชอบที่ต้องมีต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นเท่านั้น หากยังมีหน้าที่รับผิดชอบต่อลูกค้า และผู้มีส่วนได้เสียอื่นด้วยการคำนึงประโยชน์ส่วนรวมของบุคคลทุกกลุ่มดังกล่าว ดังต่อไปนี้
(1) ความซื่อสัตย์ ยุติธรรม และมีคุณธรรม
(1.1) กรรมการพึงปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบ นโยบาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัทตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น
(1.2) กรรมการพึงปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในธุรกิจการงานของบริษัทอย่างเป็นอิสระจากฝ่ายจัดการและกลุ่มที่มีผลประโยชน์ และต้องไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวเกี่ยวข้องในการตัดสินใจทางธุรกิจ
(1.3) กรรมการพึงปฏิบัติหน้าที่โดยใช้ความรู้ความสามารถของตนอย่างเต็มที่
(1.4) กรรมการพึงรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียด้วยความเป็นธรรม
(1.5) การกระทำใด ๆ ของกรรมการพึงเป็นไปโดยซื่อสัตย์ สุจริต มีคุณธรรม และยึดถือผลประโยชน์ขององค์กรเป็นหลักสำคัญในการตัดสินใจ
(1.6) กรรมการพึงยึดมั่นต่อความจริง และไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดทั้งทางตรง และทางอ้อม ไม่พึงพูดหรือกระทำการอันเป็นเท็จ และไม่พึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดโดยละเว้น การพูด หรือการปฏิบัติ
(2) การดำเนินธุรกรรมส่วนตัว
กรรมการพึงต้องแยกการดำเนินธุรกรรมส่วนตัว หรือธุรกิจอื่น ๆ ออกจากการดำเนินกิจการของบริษัท
(3) การรักษาความลับ
(3.1) กรรมการไม่พึงเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของลูกค้า พนักงาน และการดำเนินงานของบริษัททั้ง โดยเจตนาและไม่เจตนาต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากบริษัท
(3.2) กรรมการจะไม่พึงใช้ข้อมูลที่ได้รับจากการเป็นกรรมการ เพื่อประโยชน์ทางการเงินส่วนตนและผู้อื่น ที่มิได้ กระทำไปเพื่อประโยชน์ของบริษัท
(4) การเปิดเผยเรื่องผลประโยชน์
กรรมการพึงเปิดเผยผลประโยชน์จากธุรกิจส่วนตัว หรือธุรกิจอื่น ๆ รวมทั้งเรื่องใด ๆ ที่เป็นความขัดแย้งทางผลประโยชน์
(5) การยึดถือปฏิบัติตามกฎหมาย
กรรมการพึงยึดถือปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
(6) การรับเงิน ของขวัญ และผลประโยชน์อื่น ๆ
กรรมการไม่พึงใช้ตำแหน่งหน้าที่การเป็นกรรมการเพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตนจากผู้ประกอบธุรกิจกับบริษัทรวมทั้งผู้ที่กำลังติดต่อเพื่อดำเนินธุรกิจกับบริษัท
ข้อ 6 จริยธรรมของผู้บริหาร
(1) ผู้บริหารพึงปฏิบัติตนอยู่ภายใต้กรอบศีลธรรมประเพณีอันดีงาม ละเว้นพฤติกรรมที่เสื่อมเสียและตัดสินใจดำเนินการใด ๆ ด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และพนักงาน
(2) ผู้บริหารพึงบริหารงานด้วยความระมัดระวังรอบคอบ เอาใจใส่ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นตัวอย่างในการเสริมสร้างประสิทธิภาพ ประสิทธิผล อย่างมีจริยธรรม เพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของบริษัท
(3) ผู้บริหารพึงปฏิบัติต่อพนักงานด้วยความสุภาพ ปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเป็นธรรมและไม่ใช้อำนาจในทางมิชอบ
(4) ผู้บริหารต้องแสดงความยึดมั่นต่อจรรยาบรรณและจริยธรรม โดยการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับพนักงานอื่น เสริมสร้างบรรยากาศในการทำงานให้เอื้อต่อการปฏิบัติตามจรรยาบรรณและจริยธรรม รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดจรรยาบรรณและจริยธรรม
(5) ผู้บริหารพึงสนับสนุนการสร้างศักยภาพในความก้าวหน้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน จัดสวัสดิการให้พนักงานอย่างเหมาะสม มีความจริงใจ เคารพในสิทธิ และการแสดงความคิดเห็นของพนักงาน
(6) ผู้บริหารพึงสร้างเสริมความมั่นใจในการทำงานให้แก่พนักงาน ทั้งผลตอบแทน การแต่งตั้งโยกย้าย การให้รางวัล และการลงโทษที่เป็นธรรม รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ข้อ 7 จริยธรรมของพนักงาน
(1) ข้อพึงประพฤติปฏิบัติต่อตนเอง
(1.1) พนักงานพึงประพฤติปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัทโดยเคร่งครัด
(1.2) พนักงานพึงปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และด้วยความอุตสาหะขยันหมั่นเพียรและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของพนักงานและบริษัท
(1.3) พนักงานพึงมีทัศนคติที่ดีต่อบริษัทให้ความเคารพ เชื่อฟัง และปฏิบัติตาม นโยบาย ระเบียบข้อบังคับของบริษัท และคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่สั่งการโดยชอบด้วยกฎหมาย
(1.4) พนักงานพึงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรู้ ความสามารถ มีประสิทธิภาพ และได้มาตรฐานตามตำแหน่ง
(1.5) พนักงานพึงปฏิบัติตนภายใต้กรอบศีลธรรมประเพณีอันดีงาม ละเว้นพฤติกรรมที่เสื่อมเสีย
(1.6) พนักงานพึงศึกษาหาความรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้การปฏิบัติงานมีคุณภาพและประสิทธิภาพ
(2) ข้อพึงประพฤติปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงาน
(2.1) พนักงานพึงมีความสมัครสมานสามัคคีต่อกัน และเอื้อเฟื้อช่วยเหลือซึ่งกันและกันไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งจะนำไปสู่ความเสียหายต่อบุคคลอื่นและบริษัท
(2.2) พนักงานพึงปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงานด้วยความมีอัธยาศัยไมตรี มีความจริงใจ เคารพสิทธิ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน หลีกเลี่ยงการนำข้อมูลหรือเรื่องราวของผู้อื่นทั้งในเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน และเรื่องส่วนตัวไปเปิดเผย หรือวิพากษ์ วิจารณ์ในลักษณะที่จะก่อให้เกิดความเสียหาย ทั้งต่อเพื่อนร่วมงานและต่อบริษัท
(2.3) พนักงานพึงหลีกเลี่ยงการให้ และการรับของขวัญของกำนัลอันมีมูลค่ามาก หรือเพื่อหวังผลตอบแทน หรือทำให้เกิดอคติทั้งต่อตัวพนักงานต่อเพื่อนร่วมงานด้วยกัน และผู้ใต้บังคับบัญชา
(3) ข้อพึงประพฤติปฏิบัติต่อบริษัท
(3.1) พนักงานพึงมีความผูกพัน ซื่อสัตย์สุจริต อุตสาหะพากเพียร และมีความจงรักภักดีต่อบริษัท รักษาชื่อเสียงของบริษัท
(3.2) พนักงานไม่พึงใช้อำนาจหน้าที่ของตนเองเพื่อประโยชน์ของตนเองและผู้อื่น ทั้งทางตรงและทางอ้อม อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท
(3.3) พนักงานพึงรายงานเรื่องที่เป็นผลกระทบต่อการดำเนินงาน หรือชื่อเสียงของบริษัทให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยมิชักช้า
(3.4) พนักงานพึงรักษาความลับของบริษัทไม่ควรเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร อันจะมีผลกระทบให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท และไม่ควรนำข้อมูลที่ได้จากหน้าที่การงานไปหาประโยชน์ส่วนตน
(3.5) พนักงานพึงดูแลรักษาสิทธิประโยชน์ และทรัพย์สินของบริษัทให้คงสภาพดี ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ประหยัด มิให้สิ้นเปลือง สูญเปล่า เสียหาย หรือเสื่อมสลายก่อนเวลาอันควร
(4) ข้อพึงหลีกเลี่ยงในการประพฤติปฏิบัติที่ขัดต่อผลประโยชน์ของบริษัท
(4.1) พนักงานไม่พึงใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์ส่วนตน หรือพรรคพวก หรือทำธุรกิจแข่งขันกับบริษัท
(4.2) พนักงานไม่พึงประกอบการดำเนินการทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมในธุรกิจที่แข่งขันกับบริษัทหรือขัดผลประโยชน์กับบริษัท
(4.3) พนักงานไม่พึงมีส่วนได้เสียทางการเงินกับลูกค้า หรือคู่ค้าไม่ว่าจะอยู่ในฐานะที่เป็นเจ้าของกิจการ หุ้นส่วน ผู้ถือหุ้น กรรมการ เจ้าหนี้ หรือที่ปรึกษา ซึ่งถ้ามีส่วนได้ส่วนเสียดังกล่าวต้องเปิดเผยให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
(4.4) พนักงานไม่พึงเรียกเก็บ หรือรับทรัพย์สินใด ๆ จากลูกค้าและผู้ที่ทำธุรกิจกับบริษัทนอกเหนือจากค่าใช้จ่าย และค่าธรรมเนียมที่บริษัทเรียกเก็บ
(5) ข้อพึงประพฤติปฏิบัติต่อลูกค้า
(5.1) พนักงานพึงให้บริการที่ดีต่อลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ มีความซื่อสัตย์ สุจริต และชี้แจง ให้ลูกค้าทราบถึงสิทธิอันพึงมีพึงได้ รวมทั้งมีหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของลูกค้า
(5.2) พนักงานพึงให้บริการแก่ลูกค้าด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เต็มใจ จริงใจ และสุภาพ
(6) ข้อพึงประพฤติปฏิบัติต่อคู่ค้า
(6.1) พนักงานพึงปฏิบัติต่อคู่ค้าด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และด้วยความเสมอภาค
(6.2) พนักงานไม่พึงนำความลับ หรือข้อมูลทางการค้าของคู่ค้าไปเปิดเผยต่อบุคคลอื่น และไม่กล่าวร้ายคู่ค้า
(6.3) พนักงานไม่พึงเกี่ยวข้องทางการเงิน หรือผลประโยชน์ใด ๆ กับคู่ค้า เช่น ร่วมทุนร่วมทำการค้า ให้ยืมหรือให้กู้ยืมเงิน เป็นต้น
(6.4) พนักงานไม่พึงเรียกร้องเอาผลประโยชน์จากคู่ค้า เพื่อการตอบแทนการทำงานในหน้าที่ของตน
(6.5) พนักงานไม่พึงรับ หรือให้การเลี้ยงรับรอง หรือรับสิทธิประโยชน์ หรือของขวัญใด ๆ โดยการรับนั้นทำให้พนักงานต้องยอมปฏิบัติตามความประสงค์ของคู่ค้าในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต่อหลักปฏิบัติโดยปกติของบริษัท
(6.6) พนักงานพึงดำเนินการกับคู่ค้า โดยปฏิบัติตามนโยบาย ระเบียบของบริษัทอย่างเป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้
(7) ข้อพึงประพฤติปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชา
(7.1) รับฟังคำแนะนำของผู้บังคับบัญชา และไม่ปฏิบัติงานข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน เว้นแต่ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปเป็นผู้สั่ง รวมทั้งควรมีความสุภาพต่อพนักงานที่มีตำแหน่งเหนือตน
(7.2) ปฏิบัติต่อผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยเมตตาธรรมและยุติธรรม ดูแลเอาใจใส่และพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ถ่ายถอดความรู้ และสนับสนุนด้านการอบรม เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์อยู่เสมอ
(7.3) รับฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะของผู้ใต้บังคับบัญชาเกี่ยวกับงาน และพิจารณานำไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่องาน
ข้อ 8 การติดตามดูแลให้มีการปฏิบัติ
บริษัทได้จัดทำบทบัญญัติเกี่ยวกับจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ผ่านการประกาศของบริษัท และแจ้งให้พนักงานรับทราบ โดยกำหนดให้ผู้บังคับบัญชาทุกคนทุกระดับมีหน้าที่ติดตามดูแลให้พนักงานปฏิบัติตามบทบัญญัติเกี่ยวกับจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจ และให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของวินัยพนักงาน
ข้อ 9 การรายงานการฝ่าฝืนหรือการไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจ
(1) การละเมิดบทบัญญัติเกี่ยวกับจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจ หรือการสนับสนุนให้ผู้อื่นละเมิด บริษัทอาจพิจารณาการลงโทษทางวินัย รวมถึงการเลิกจ้างงานและการสูญเสียผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
(2) กรณีพบเห็นการกระทำที่ละเมิดจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจ หรือมีข้อสงสัยการกระทำที่อาจละเมิดจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจ สามารถแจ้งเบาะแสได้ตามช่องทางที่กำหนดไว้ในระเบียบบริษัท ว่าด้วย กระบวนการจัดการเกี่ยวกับการแจ้งเบาะแสภายในองค์กร
______________________________